เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 10.00-20.00 | วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 10.00-20.00
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 10.00-20.00
วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 10.00-20.00
#

Burnout Syndrome .... ภาวะหมดไฟในการทำงาน!!!

กว่าจะเรียนจบมาก็ไม่ง่าย จบมาแล้วยังต้องมาดิ้นรนหางานทำอีก แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือทำอย่างไรที่จะสามารถทำงานอย่างมีความสุขและอยู่รอดปลอดภัย

ถ้าโชคดีได้งานทำ ... ก็ต้องเข้ามาเรียนรู้กับบทบาท หน้าที่ และภาระงานที่ยุ่งยากซับซ้อน บางครั้งก็หนักและยากเกินกว่าจะรับผิดชอบไหว ถามใครก็ไม่ได้ ถามไปก็โดนด่าว่าโง่ นอกจากงานแล้วยังต้องมาปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของคนรอบตัว ทั้งเจ้านาย เพื่อนฝูง ผู้ร่วมงาน ดูไม่ออกว่าใครเป็นมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร การตื่นมาทำงานทุกวันจึงกลายเป็นความเครียด ท้อแท้ เบื่อหน่าย รู้สึกบั่นทอนจิตใจจนกลายเป็นคนหมดไฟ รู้สึกเหนื่อยกายแล้วยังรู้สึกเหนื่อยใจ ส่งผลให้มุมมองที่มีต่อการทำงานเป็นไปในด้านลบ ขาดความสุข หมดแรงจูงใจ ไม่อยากตื่น ไปทำงานอย่างไร้พลัง ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการแก้ไขก็จะส่งผลเสียทั้งต่องาน สุขภาพร่างกาย เช่น ไมเกรน ความเครียดลงกระเพาะ นอนไม่หลับ ฯลฯ รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต ทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่มีความภาคภูมิใจในตนเอง รู้สึกไร้ค่า เสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าได้

ดังนั้น เราต้องเท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง โดย

  1. บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ (Roles and Responsibilities) : เรียนรู้และทำความเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบที่ถูกคาดหวังให้เข้าใจตรงกัน รวมถึงตัวชี้วัดผลงาน (KPI) และการประเมินผลงานที่เป็นรูปธรรม
  2. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective Communication) จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแบบ 360 องศา ทั้งกับเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน ให้คำปรึกษา และทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข
  3. รักษาสมดุลย์ของชีวิตและการทำงานอย่างมีความสุข (Work Life Balance) เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์และเติมไฟให้พลังกับตนเอง เป็นต้น

แต่หากยังไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกลบได้ สามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญได้